YECVT เทคโนโลยีระบบส่งกำลังใหม่ในรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ที่เปิดตัวครั้งแรกมากับ Yamaha NMAX Turbo ในประเทศอินโดนีเซีย มีดียังไง และมีหลักการทำงานอย่างไรบ้าง?
ระบบ YECVT คืออะไร?
ระบบ YECVT หรือชื่อเต็มว่า Yamaha Electric Continously Variable Transmission คือระบบควบคุมชุดส่งกำลังอัตโนมัติด้วยอิเล็กทรอนิกส์ โดยมี ECU ทำหน้าที่ประมวลผล และส่งคำสั่งไปยังชุดส่งกำลัง YECVT จากนั้นสัญญาณจะถูกส่งต่อไปยังมอเตอร์ เพื่อปรับอัตราทด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเร่งแซงและชลอความเร็ว
ถ้าเรียกแบบภาษาง่ายๆ YECVT ก็คือชุดระบบชามไฟฟ้านั่นเอง โดยมาพร้อมกับตุ้มถ่วงน้ำหนัก 2 รูปแบบในชุดเดียวกัน ที่คุณสามารถปรับอัตราทดกำลังด้วยตนเองได้ผ่านปุ่มควบคุมบนประกับแฮนด์ฝั่งซ้ายผ่านฟังก์ชั่น โหมดการขับขี่
หลักการคือ จะมีชุดมอเตอร์ควบคุมการปรับองศาของชามหน้า เพื่อทำหน้าที่ปรับอัตราทดกำลังของตัวรถประโยชน์คือ ทำให้เราสามารถกดเพิ่มรอบเครื่องยนต์ได้ตามที่ต้องการ โดยจะสามารถเพิ่ม/ลดได้ทั้งหมด 3 ระดับด้วยกัน ด้วยปุ่ม Shift
เมื่อเรากำลังออกตัว เปิดคันเร่งด้วยรอบเครื่องยนต์ราว 4,000 รอบ/นาที สามารถกดปุ่ม Shift ที่ประกับแฮนด์ฝั่งซ้าย เพื่อเพิ่มรอบเครื่องยนต์แบบฉับพลันได้ ทำให้มีอัตราเร่งที่จัดจ้านมากยิ่งขึ้น
กลับกัน เมื่อเราขับด้วยความเร็วสูง และปิดคันเร่งสนิท เมื่อกดปุ่ม Shift ซึ่งเป็นการเพิ่มรอบเครื่องยนต์ ผลคือจะทำให้เกิดเบรกที่เครื่องยนต์หรือเอนจิ้นเบรก เพิ่มมากยิ่งขึ้น มีประโยชน์อย่างมากสำหรับการขับขี่ขึ้น-ลง ทางลาดชัน
นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 2 แบบ ผ่านการกดปุ่มเท่านั้น ได้แก่ T Mode : Town Commuting สำหรับการขับขี่ในเมือง และ S Mode : Sport Touring สำหรับการขับขี่ที่ต้องการกำลังเครื่องยนต์สูง
YECVT ใช้งานจริงเป็นอย่างไร
ระบบ YECVT ในการใช้งานจริง คุณสามารถเลือกระดับของรอบเครื่องยนต์ได้ประดุจการเปลี่ยนเกียร์ในรถเกียร์ธรรมดาเลยทีเดียว
โดยหลักแล้ว YECVT จะเปิดให้คุณเลือกโหมดการขับขี่ได้ 2 แบบ นั้นคือ T และ S ซึ่งตามชื่อเลย โหมด T ตัวรถจะค่อนข้างหน่วงมาก เน้นเรื่องของการประหยัดน้ำมัน ส่วน S รถจะมีความจี้ดจ้าดสูงมากๆ บิดเป็นมา สั่งได้ดั่งใจ ส่วนความเร็วปลายทำได้เท่ากันทั้ง 2 โหมด ต่างที่อัตราเร่งที่ฝั่ง T จะมาแบบเรื่อยๆ ส่วน S จะมาแบบไวมาก
ด้านปุ่ม Shift สามารถใช้เพิ่มรอบของเครื่องยนต์ได้แบบฉับพลันทั้งหมด 3 ระดับ โดยมีหลักการทำงานโดยสรุปดังนี้
- ทำงานในจังหวะเปิดคันเร่ง เมื่อรอบเครื่องยนต์สูงเกิน 2,500 รอบ/นาที เราสามารถกดได้ถึง 3 ระดับ จนถึงโซน 7,000 รอบ/นาที เพื่อทำให้อัตราเร่งของรถมาเร็วมากยิ่งขึ้น เสมือนการลดเกียร์ลงในรถเกียร์ธรรมดา ทว่า หากคุณขี่ด้วยรอบเครื่องยนต์ที่สูงแล้ว จะไม่สามารถกดเพิ่มได้ อาทิเช่น เกิน 7,000 รอบ/นาที
- ทำงานในจังหวะปิดคันเร่ง เมื่อคุณปิดคันเร่งแล้วยังต้องการแรงหน่วงจากเครื่องยนต์เพิ่มเติม (Engine Brake) สามารถกดปุ่ม Shift เพื่อเพิ่มแรงหน่วงเครื่องยนต์ได้ ตัวรถจะทำการเพิ่มรอบเครื่องยนต์ขึ้นมา เหมือนกับการลดเกียร์ลงในรถเกียร์ธรรมดา
สรุปแบบเข้าใจง่ายๆ หากต้องการปรับเหมือนเปลี่ยนน้ำหนักตุ้มถ่วง ให้เลือกสลับโหมดการขับขี่ระหว่าง T และ S
ถ้าต้องการเพิ่มรอบเครื่องยนต์ ให้กดปุ่ม Shift
YECVT ข้อดี
ข้อดีของระบบ YECVT คือคุณสามารถปรับอัตราทดของรถได้โดยอิสระประดุจมีชุดตุ้มถ่วงน้ำหนัก 2 แบบ และสามารถปรับอัตราทดกำลังได้ด้วยตนเองตลอดเวลา อยากเพิ่มรอบเครื่องยนต์ได้ตามใจต้องการ
YECVT ข้อสังเกต
ข้อสังเกตของระบบ YECVT อยู่ที่การปรับแต่งชุดข้างของรถที่จะต้องมีการศึกษาหาข้อมูลกันเพิ่มเติมว่า หากต้องการปรับแต่งให้รถมีความแรงมากยิ่งขึ้นไปอีกระดับ จะต้องปรับจูนตรงไหนบ้าง
รถมอเตอร์ไซค์ ที่ใช้ YECVT
รถมอเตอร์ไซค์รุ่นแรกที่ใช้ระบบ YECVT คือ Yamaha NMAX Turbo ที่เปิดตัวไปแล้วในประเทศอินโดนีเซีย และเตรียมจะเปิดตัวในประเทศไทยเร็วๆ นี้ มารอดูกันว่าจะใช้ชื่อใด และมีฟังก์ชั่นแบบไหนบ้าง
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น