Hyundai Ioniq 5 N ได้รับรางวัล "Best Performance EV" จาก MotorTrend Best Tech Winners 2025 โดยมีฮาร์ดแวร์ที่ล้ำสมัยทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์และนวัตกรรมขั้นสุด กลายมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่น่าดึงดูดใจที่สุดในตลาด ณ ขณะนี้

Hyundai Ioniq 5 N ได้รางวัล Best Performance EV จาก MotorTrend Best Tech Winners 2025

หนึ่งในเทคโนโลยีที่เปลี่ยนวิธีคิดรวมถึงฟีลลิ่งการขับขี่ Hyundai Ioniq 5 N รถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต จาก เทคโนโลยีมอเตอร์คู่อันเป็นเอกลักษณ์ของ Hyundai ถือเป็นความก้าวหน้าซึ่งทำให้ได้รับรางวัล Best Performance EV จาก MotorTrend Best Tech Winners 2025 ซึ่งเป็นรางวัลที่คู่ควรสำหรับประสิทธิภาพของเทคโนโลยีสุดล้ำ พละกำลัง รวมถึงจิตวิญญาณรถสปอร์ตสมรรถนะสูงในคราบ EV Car  

ระบบส่งกำลัง Hyundai Ioniq 5 N

มองดูแวบแรกในส่วนของระบบส่งกำลัง Hyundai Ioniq 5 N ดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่แปลกใหม่เป็นพิเศษ มีการติดตั้งระบบส่งกำลังแบบมอเตอร์คู่ ควบคู่กับเทคโนโลยีแบตเตอรี 800 โวลต์ ที่มีน้ำหนักค่อนข้างเบาและมีประสิทธิภาพสูง ขนาด 84 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถผลิตพละกำลังจากมอเตอร์ด้านหน้า 273 แรงม้า แรงบิด 273 ปอนด์-ฟุต ในขณะที่มอเตอร์ด้านหลังสร้างพละกำลัง 406 แรงม้า แรงบิด 295 ปอนด์-ฟุต ทำให้มีพละกำลังรวมสูงสุดที่ 641 แรงม้า แรงบิด 568 ปอนด์-ฟุต แน่นอนว่าแรงมากพอที่จะต่อกรกับรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงอื่นๆ อาทิ Tesla Plaid Series และ Lucid Air Sapphire ได้อย่างสบายๆ 

แต่สิ่งที่ทำให้ระบบส่งกำลังของ Hyundai Ioniq 5 N โดดเด่นจนคว้ารางวัล MotorTrend Best Tech ประจำปี 2025 ได้นั้น คือ วิธีการปรับแต่งฮาร์ดแวร์ด้วยซอฟต์แวร์นวัตกรรมใหม่ ซึ่งสามารถ Customize สมรรถนะการขับขี่ให้ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบความเร็วและจิตวิญญาณของนักแข่งมอเตอร์สปอร์ต ผ่านปุ่ม "N" บนพวงมาลัย ปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ต่างๆ ทั้งโหมดเดิมที่คุ้นเคยและโหมดดริฟท์ รวมถึงระบบควบคุมการออกตัวที่ใช้ Rear Electronic Limited-Slip Diff ทำงานคู่กับมอเตอร์ด้านหน้า 

และนอกจาก ปุ่ม "N" ที่เป็นไฮไลท์แล้ว ยังได้ปุ่ม "N Grin Boost" และ "N Torque Distribution" ที่สามารถปรับระบบขับเคลื่อนจากล้อหน้าไปล้อหลังได้ แบบ 100/0 ถึง 0/100 ในอัตราส่วน 10 เปอร์เซ็นต์ เอาใจสายซิ่งรวมถึงแฟนคลับของ Subaru WRX STI และ Mitsubishi Lancer Evo เป็นอย่างมาก

ซอฟต์แวร์และนวัตกรรมใหม่ของ Hyundai 

อย่างที่เลดี้กล่าวไปข้างต้น ในเรื่องของซอฟต์แวร์และนวัตกรรมขั้นสุด จากรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงคันนี้ Hyundai Ioniq 5 N มาพร้อมกับการตั้งค่าอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งที่แปลกใหม่สำหรับรถในกลุ่มนี้ก็คือ โหมด N e-Shift, N Pedal และ N Active Sound+

N Pedal หรือว่าแป้นเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัยที่คุ้นเคย สามารถรีเจนท์พลังงานของมอเตอร์ด้านหน้ากลับมากักเก็บได้ และยังช่วยให้สามารถถ่ายโอนน้ำหนักไปที่ด้านหน้าของรถได้มากขึ้น ทำให้เข้าโค้งได้เร็วขึ้นด้วยการส่งแรงบิดผ่านเกียร์ดิจิทัล และเมื่อเปิดใช้งาน N e-Shift ควบคู่กันไป ทำให้สามารถเปลี่ยนจังหวะการขับขี่ได้อย่างไหลลื่นไม่ติดขัด ซึ่งระบบส่งกำลังเหล่านี้ทำงานร่วมกับระบบ N Active Sound+ เพื่อจำลองเสียงของเครื่องยนต์ให้ดังกระหึ่มเข้ากับจังหวะการขับขี่และการกดคันเร่ง และสำหรับใครที่เบื่อฟังเสียงเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แบบธรรมดา ก็สามารถเลือกเสียงเครื่องยนต์แบบซิมโฟนิก หรือจะเป็นเสียงเครื่องยนต์จากเครื่องบินขับไล่ก็ได้เช่นเดียวกัน  

Hyundai Ioniq 5 N รถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต

ที่บอกว่า Hyundai Ioniq 5 N เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ก็เพราะว่ามันสามารถทำให้คนที่ไม่สนใจในรถยนต์ไฟฟ้าเลย เปิดใจและเปลี่ยนความคิดได้ อย่างเช่น Mac Morrison บรรณาธิการบริหารของ MotorTrend Group กล่าวว่า "ฉันคือคนหนึ่งที่ไม่เคยสนใจรถยนต์ไฟฟ้าเลย แต่ Ioniq 5 N ทำให้ฉันสนใจมาก และถ้าต้องเลือกรถยนต์ไฟฟ้าซักคัน Ioniq 5 N คือคันที่ใช่สำหรับฉัน"   

สิ่งที่น่าดึงดูดใจส่วนใหญ่มาจากระบบส่งกำลังของ Ioniq 5 N ที่น่าตื่นเต้นและทรงพลัง ผู้ขับขี่สามารถปรับรูปแบบของตัวรถให้เหมาะสมกับตัวเองตามวิสัยทัศน์ ซึ่งสามารถเป็นทั้งรถแฮตช์แบ็ก รถเอสยูวีสุดเจ๋ง หรือรถสปอร์ตทัวเรอร์ ขึ้นอยู่กับคุณจะตั้งค่ามัน และ Hyundai Ioniq 5 N จะเป็นรถยนต์ที่ผู้คนกล่าวถึงไปอีกนาน และถือเป็นจุดสูงสุดที่ทาง Hyundai ทำได้ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันหรือไฟฟ้าก็ตาม ด้วยเหตุนี้จึงสมควรได้รับรางวัล Best Performance EV แห่งปี 2025 จาก MotorTrend

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน