ฮุนได เวโลสเตอร์ เทอร์โบ 2013 : ขับมัน จิบมึน...

ลองขับ ฮุนได เวโลสเตอร์ เทอร์โบ โดดเด่นด้วยรูปร่างหน้าตาแบบ 3 ประตู 2+2 ที่นั่ง มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรเทอร์โบ ที่ทั้งขับสนุกและโดดเด่นเมื่อยามอยู่บนท้องถนน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอัตราการจิบน้ำมันที่สมน้ำสมเนื้อ

แบรนด์รถยนต์เกาหลีในประเทศไทยอย่างฮุนไดนั้น จะบอกว่าหน้าใหม่ก็คงไม่ใหม่มาก เพราะเคยมีอดีตที่แสนหวานและขื่นขมในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมาอย่างยาวนาน จะเห็นได้จากบรรดารถยนต์รุ่นเก่า ๆ ก็ยังมีวิ่งอยู่ให้เห็นเกลื่อนถนน

การขาดช่วงในการทำตลาดหลังจากพระนครยนตรการปล่อยสิทธิ์การจำหน่ายรถฮุนไดในประเทศไทยให้หลุดลอยไป และเกิดช่วงสูญญากาศขึ้นมา ก่อนที่บริษัทเงินทุนจากญี่ปุ่นอย่างโซจิทสุ จะเข้ามาเทคโอเวอร์กิจการอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ภายใต้การบริหารของนายทุนหน้าใหม่ ฮุนไดได้สร้างสีสันให้สมกับการทำตลาดในประเทศไทย ด้วยการบุกแย่งส่วนแบ่งตลาดรถตู้มาจากผู้นำตลาดอย่างเป็นกอบเป็นกำ และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ทัพสินค้าใหม่ ๆ ก็ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา

และแน่นอนว่า เวโลสเตอร์ เจ้ารถยนต์หน้าตาแปลกประหลาดคันนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น!!!

ผมเองมีโอกาสได้พบเห็นรถยนต์คันนี้จอดโดดเด่นเป็นสง่าแบบปิดโลโก้เอาไว้ กลางถนนที่พลุกพล่านของเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี ในช่วงสัก 2 ปีที่ผ่านมาตอนนั้นยังเคยปล่อยไก่ว่าน่าจะเป็นรถยนต์ค่ายยุโรป จนกระทั่งพีอาร์ใหญ่ของฮุนไดออกมาแก้ว่าเป็นรถยนต์ของพระเอกภาพยนตร์เรื่องซิตี้ ฮันเตอร์

พอได้มาเห็นรถคันจริงสีแดงเพลิงที่ทางทีมงานในเมืองไทยเตรียมไว้ให้ทำการทดสอบ พร้อมคำขอโทษขอโพยว่าไม่ได้เตรียมสีเทาด้านซึ่งเป็นสีตัวท๊อปที่ราคาแพงกว่ากันอีกเล็กน้อยไว้ให้ ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ ดู ๆ แล้วสีแดงอาจจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผมมากกว่า

เวโลสเตอร์คือรถยนต์ที่ฮุนได้หมายมั่นปั้นมือให้เป็นรถยนต์ที่จะยกระดับภาพลักษณ์ของฮุนไดจากรถยนต์ทั่ว ๆ ไป ที่ทำตลาดกันอยู่ ในมุมของการเป็นรถยนต์หรูอาจจะเป็นหน้าที่ของอีคัส แต่ในตลาดที่เน้นความเร็วและสปอร์ตก็ต้องเป็นหน้าที่ของรถคันนี้

ตัวรถที่ออกแบบมาเน้นเส้นสายแบบเต็มพิกัด แน่นอนว่าสร้างความตื่นเต้นให้กับคนที่มองเห็นรถคันนี้แม้แต่เพียงปลายสายตา รูปทรงประหลาดที่มาพร้อมประตูด้านคนขับเพียง 1 บานและด้านคนนั่ง 2 บาน พาลให้นึกถึงมินิ คลับแมนอยู่เหมือนกัน

ความโฉบเฉี่ยวน่าจะเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบรถยนต์คันนี้ เพราะตั้งแต่ด้านหน้าของตัวรถไปจนถึงฝากระโปรงหลัง รวมถึงห้องโดยสารภายใน พยายามเน้นความเป็นสปอร์ตในทุกอณู เรียกว่าทีมออกแบบมีความสปอร์ตในสายเลือดเท่าไร ก็น่าจะเทใส่รถคันนี้มาทั้งหมด

ตัวรถเองในรุ่นเทอร์โบติดอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการใช้งานมาอย่างครบถ้วน กุญแจรีโมตแบบสมาร์ทคีย์และระบบปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ พวงมาลัยแบบผ่อนแรงปรับได้ 4 ทิศทาง เครื่องเสียงที่ให้เสียงออกโทนแหลม แต่มีระบบเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มาให้ และแน่นอนว่าแพดเดิลชิฟท์ที่คอพวงมาลัยก็ติดตั้งมาให้ด้วย

เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดทำหน้าที่ส่งผ่านกำลัง 186 แรงม้าจากเครื่องยนต์ที-จีดีไอ 1.6 ลิตร เทอร์โบ พร้อมด้วยแรงบิดระดับ 265 นิวตัน-เมตรที่มาที่รอบต่ำตั้งแต่ 1,500 รอบขึ้นไป ผ่านรองเท้ายางขนาด 18 นิ้ว

แม้จะเป็นเครื่องยนต์เบนซินแต่ด้วยแรงบิดที่สูงเอาเรื่อง จึงไม่ต้องแปลกใจหากจะเป็นฮุนได เวโลสเตอร์ เทอร์โบคันนี้ ลากเลื้อยไปตามท้องถนนด้วยความรวดเร็วและสนุกสนานเท่าที่ผู้ขับขี่จะสามารถควบคุมได้

การวิ่งจากจุดหยุดนิ่งไปที่ความเร็วมากกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นเรื่องที่ธรรมดาและปกติมากสำหรับผู้ขับขี่ และความเร็วยังลากเลื้อยไปได้มากว่า 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแบบไม่ยากเย็นอะไรนัก โดยมีเสียงเครื่องยนต์ครางแผ่ว ๆ เข้ามาในห้องเครื่องบางเป็นระยะ

ความสะดวกสบายในการใช้งานถือว่าอยู่ในระดับที่สบายกว่ารถโรดสเตอร์ทั่ว ๆ ไป ตัวรถมีพื้นที่วางขาให้มากพอสมควร ขณะที่เบาะที่นั่งที่ให้มาก็รับกับตัวผู้ขับขี่มากในระดับที่ไม่ทำให้อึดอัดเกินไปนัก

ช่วงล่างเซตอัพมาอย่างนุ่มนวล ไม่แข็งกระด้างเหมือนรถสปอร์ตทั่วไป เรียกว่าซื้อมาขับเล่นในเมือง ไปห้างสรรพสินค้าได้อย่างไม่ต้องกลัวว่าจะต้องเลื้อยคลานให้ยากลำบาก เป็นโรดสเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป

จุดที่ต้องคำนึงให้มากสักเล็กน้อยสำหรับการตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์คันนี้ก็คือ อัตราสิ้นเปลืองที่ดูจะดุดันไปตามลักษณะของการขับขี่ ซึ่งแน่นอนว่าหลาย ๆ คนอาจจะบอกว่าไม่สนใจ แต่ถ้าคิดจะซื้อมาขับเป็นรถจ่ายกับข่าวที่เอาแต่หน้าตาอย่างเดียว ไปซื้อรุ่นธรรมดาที่ราคาถูกกว่ากัน 4 แสนจะดีกว่า

อีกอย่างที่ต้องระวังก็คือ ระบบคอมพิวเตอร์ในรถดูจะทำงานช้า ๆ ไปสักเล็กน้อย อย่างเช่น เวลาเติมน้ำมันกลับเข้าไปในถังน้ำมัน กว่าที่คอมพิวเตอร์จะจับได้ว่ามีการเติมน้ำมันเข้าไปก็ต้องใช้เวลาสักพัก

ค่าตัว 1.739 ล้านบาท น่าจะบอกได้ว่าไม่มีคู่แข่งอย่างเป็นทางการสำหรับรถยนต์ในกลุ่มเดียวกัน ทำให้เราเริ่มเห็นเวโลสเตอร์วิ่งไปมาบนท้องถนนมากขึ้น โดยเฉพาะพวกสีเจ็บ ๆ ส้ม เหลือง ดูจะถูกจริตของคนไทยมากเป็นพิเศษ

ถ้าสนใจลองไปทดสอบดู แล้วจะหลงรักเจ้าตัวจิ๋ว 3 ประตูไม่น้อย...