ลองเชฟโรเลต แคปติว่า รุ่นพิเศษโฉมปี 2014 เพิ่มออพชั่้นเอาใจลูกค้าชอบของเล่น

ตลาดรถยนต์ตรวจการณ์เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทำเอา เชฟโรเลต ที่ทำตลาดรถเอสยูวีอย่าง เชฟโรเลต แคปติว่า อยู่ก่อนหน้านี้อยู่เฉยไม่ได้ ต้องออกมาทำรุ่นพิเศษออกมาเพื่อเอาใจลูกค้าที่ชอบรถยนต์ออพชั่นเยอะ ๆ ในราคาที่ไม่สูงเกินไป

แคปติว่ารุ่นพิเศษที่มีจำนวนจำกัดเพียง 600 คัน วางราคาจำหน่ายที่ 1.48 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการวางตำแหน่งสินค้าที่ชาญฉลาดด้วยการผลักให้เป็นแคปติว่า ขับเคลื่อน 2 ล้อรุ่นท๊อป โดยราคาจำหน่ายจะเป็นรองก็แค่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้ออีก 2 รุ่นเท่านั้น ในกลุ่มเครื่องยนต์ดีเซล

รูปร่างหน้าตาดูแข็งแกร่ง บึกบึนตามสไตล์ของรถสัญชาติอเมริกัน แม้จะเป็นรุ่นที่ผ่านการจำหน่ายมาแล้วหลายปีจนน่าจะเรียกได้ว่าเข้าสู่ช่วงปลายของการทำตลาดแล้ว แต่แคปติว่าก็ถือเป็นรถที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว และหน้าตาเองก็ดูไม่ขี้ริ้วขี้เหร่แม้จะเทียบกับคู่แข่งจากญี่ปุ่นก็ตาม

เชฟโรเลตบอกว่ารถยนต์รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อลูกค้าที่ต้องการ "แคปติว่าที่เหนือกว่า" ซึ่งออพชั่นบางอย่างนั้น แม้แต่ในรุ่นท๊อปก็ยังไม่มีให้ลูกค้าได้เลือกจับจองเป็นเจ้าของเสียด้วยซ้ำ

ความโดดเด่นของตัวรถนั้นอยู่ที่ 3 จุดหลัก ๆ ประกอบไปด้วย หนึ่ง สีตัวถังซึ่งเป็นสีขาวเมทัลลิก สอง กรอบโคมไฟท้ายแบบใส ซึ่งเป็นครั้งแรกของแคปติว่าที่ติดตั้งออพชั่นนี้มา และสุดท้ายก็คือล้อแมกซ์ขนาด 19 นิ้วที่เพิ่มความบึกบึนให้กับตัวรถในภาพรวมเป็นอย่างมาก

ด้วยออพชั่นทั้ง 3 จุดที่ว่ามาทำให้แคปติว่า เอสวีพีรุ่นนี้ดูโดดเด่นมากขึ้นบนท้องถนน โดยเฉพาะกรอบไฟท้ายแบบใสนั้น มีเจ้าของรถแคปติว่าหลายต่อหลายคนที่เดินเข้ามาถามว่าจะไปหาซื้อมาติดได้บ้างจากที่ไหน

ล้อแมกซ์ขนาด 19 นิ้วยังส่งผลดีต่อการขับขี่ที่ทำให้รถมีความมั่นคงของรถมากขึ้นกว่าเดิม แม้จะเป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อก็ตามที การพารถวิ่งไปบนถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อก็ทำได้ดี แม้จะสูญเสียความนุ่มนวลของช่วงล่างลงไปบ้างเล็กน้อย

เครื่องยนต์ที่ติดตั้งไม่ได้เปลี่ยนไปยังคงเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตรที่ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตรที่รอบต่ำ 1,750-2,750 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยตัวผู้ขับขี่เอง

เครื่องยนต์ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่เตรียมตัวจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอนาคตอันใกล้ ให้การตอบสนองบนท้องถนนแบบสบาย ๆ ไม่ได้เน้นความดุเดือดของการขับขี่มากนัก แต่เน้นการใช้งานในแบบรถครอบครัว 7 ที่นั่งเป็นหลักเสียมากกว่า

แม้จะไม่ได้โดดเด่นในเรื่องของอัตราเร่งแบบปรู๊ดปร๊าดทันใจ แต่ในการใช้งานจริงต้องบอกว่าเครื่องยนต์บล็อกนี้ก็ยังเพียงพอในการขับขี่บนท้องถนน การทำความเร็วที่ระดับ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอย่างต่อเนื่องไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด

การตอบสนองของคันเร่งต่อการกดเพื่อทำความเร็วเร่งแซงนั้นอาจจะไม่ทันใจนัก แต่ทดแทนได้ด้วยการชิฟท์เปลี่ยนเกียร์ให้สอดคล้องกับจังหวะของการขับขี่ ขณะที่การเก็บเสียงของรถยังทำได้ค่อนข้างดี ทั้งเสียงจากลมปะทะด้านหน้าและเสียงจากช่วงล่างที่ไม่ก่อให้เกิดความรำคาญมากนัก

ออพชั่นภายในที่ให้มายังถือว่าขาดไปในบางจุด แม้จะติดตั้งระบบอินโฟร์เทนเมนต์ พร้อมด้วยจอสัมผัส 7 นิ้ว และระบบนำทางผ่านดาวเทียมมาให้เรียบร้อย และระบบทั้งหมดก็รองรับภาษาไทยได้ดีอย่างไม่มีที่ติ แต่ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ควรติดตั้งมาให้ก็ยังไม่เห็นในรถครอบครัวคันนี้

จุดเด่นที่สุดของแคปติว่าในตลาดนี้ที่ถือเป็นจุดเด่นมาตั้งแต่แรกก็คือการพัฒนารถออกมาเป็นรถยนต์ 7 ที่นั่งแท้ ๆ ซึ่งที่นั่งตอนที่ 3 ถือว่าสะดวกสบายและนั่งได้แบบไม่ตะขิดตะขวงใจ และมีระบบปรับอากาศติดตั้งมาอย่างพร้อมสมบูรณ์

ขณะที่พละกำลังของเครื่องยนต์ที่ให้มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ที่ต่ำก็ช่วยลดเสียงของเครื่องยนต์ทางด้านหน้า รวมถึงช่วยในเรื่องของอัตราการสิ้นเปลืองที่ทำได้ดีแม้จะเป็นการวิ่งทางไกลที่เน้นการทำความเร็วเป็นหลักก็ตาม

โดยสรุปแล้ว แม้จะเป็นรุ่นลิมิเต็ดที่ทำออกมาจำนวนจำกัดเพียง 600 คันก็ตาม แต่ก็ถือว่าไม่ได้โดดเด่นไปจากรุ่นที่ทำตลาดอยู่เดิมเสียเท่าไหร่ เรียกว่าเป็นการสร้างสีสันให้กับสินค้าที่มีอยู่ในมือเป็นหลัก ซึ่งหากสนใจก็ต้องรับสภาพว่านี่คือสินค้าที่มีอายุการทำตลาดมานานพอสมควรแล้ว

แต่หากความต้องการยังอยู่ที่รถยนต์เอสยูวี 7 ที่นั่ง ที่พาคนไปไหนมาไหนได้ 7 ที่นั่งจริง ๆ เครื่องยนต์ให้การตอบสนองที่ดีแบบไม่อืดอาด อัตราการประหยัดน้ำมันอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ อาจจะไม่หวือหวาขับปรู๊ดปร๊าดแต่ก็ไม่ช้าจนโดนสิบล้อแซงไม่เห็นฝุ่นแน่ ๆ เชฟโรเลต แคปติว่าก็คงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

เหลือแค่ว่าอยากได้รุ่นพิเศษ หรือจะกระโดดไปเล่นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อที่ต้องบวกเงินไปอีก 2 แสน ก็คงต้องแล้วแต่ออพชั่นในกระเป๋าสตางค์ก็เท่านั้น...