ปัญหาถุงลมนิรภัยของทาคาตะที่ทำงานผิดปกติซึ่งคร่าชีวิตไปแล้วหลายรายเริ่มส่งผลต่อแผนกอื่นภายในบริษัทแล้ว
แหล่งข่าววงในทาคาตะเปิดเผยกับสำนักงานบลูมเบิร์กว่า ความต้องการซื้อพวงมาลัยเริ่มปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะไม่มีการเปิดเผยว่ายอดขายที่ลดลงส่งผลต่อธุรกิจของบริษัทมากน้อยเพียงใด แต่ประเมินได้ไม่ยากว่าจะส่งผลมากพอสมควรเพราะยอดขายพวงมาลัยคิดเป็นสัดส่วน 17% ของยอดขายทั้งหมดของทาคาตะ
ขณะที่ยอดขายถุงลมนิรภัยคิดเป็นสัดส่วน 37% ซึ่งวิกฤตที่เกิดขึ้นทำให้ราคาหุ้นของทาคาตะปรับลดลงถึง 40% ในปีนี้ โดยนักลงทุนรายใหญ่ได้ทิ้งหุ้นของทาคาตะเพราะผู้บริหารของบริษัทเองปฏิเสธที่จะหารือถึงเรื่องนี้
บรรดาค่ายรถต่างๆ ตกเป็นข่าวว่าจะยกเลิกการใช้ถุงลมนิรภัยของทาคาตะในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นฮอนด้าที่เป็นพันมิตรมายาวนาน รวมถึงฟอร์ด โตโยต้าและมาสด้า
การระเบิดของถุงลมนิรภัยของทาคาตะทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 8 รายและบาดเจ็บอีกราว 100 คน ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าสาเหตุเกิดจากสารแอมโมเนียมไนเตรทที่จะเป็นตัวจุดระเบิดเมื่อถูกความชื้น บรรดาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ทาคาตะยกเลิกใช้สารดังกล่าว ขณะที่เจ้าของรถหลายรายก็ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย
ความคิดเห็น