หนิงป่อ จอยสัน อิเลกทรอนิก คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำจากจีนเตรียมเดินหน้ารุกตลาดถุงลมนิรภัยทั่วโลก หลังจากทาคาตะจากญี่ปุ่นประสบปัญหาผลิตภัณฑ์ไม่ได้คุณภาพ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จอยสันเพิ่งทุ่มเงินถึง 920 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าซื้อกิจการของบริษัทคีย์ เซฟตี้ ซิสเต็มส์ ผู้ผลิตถุงลมนิรภัยของอเมริกาในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และตัดสินใจรุกธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แข่งขันกับยักษ์ใหญ่อย่างออโต้ลิฟ และแซดเอฟจากเยอรมนี
จอยสันมองว่า วิกฤตถุงลมนิรภัยที่ไม่ได้คุณภาพของทาคาตะคือโอกาสอันดีที่จะช่วงชิงพื้นที่การตลาด โดยถัง หยูซิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจอยสันกล่าวว่า “สถานการณ์ในเวลานี้เปิดโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับการรุกอุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้เล่นในตลาดน้อยลง ดังนั้นโอกาสจึงเปิดมากขึ้น”
ด้านบริษัทคีย์ เซฟตี้ เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตถุงลมนิรภัยที่ถูกใช้งานแทนที่ทาคาตะซึ่งมีปัญหามากมายโดยเฉพาะการระเบิดที่รุนแรงกว่าปกติทำให้พ่นของมีคมเข้าสู่ห้องโดยสาร โดยคีย์ เซฟตี้และจอยสันยังกำลังเดินหน้าพัฒนาระบบควบคุมการขับขี่ที่จะทำงานร่วมกับแอร์แบ็กและสามารถประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ความอ่อนแอของทาคาตะในตลาดถุงลมนิรภัยอาจกินเวลานานหลายปี ก่อนหน้านี้ ฮอนด้า ฟอร์ด โตโยต้า และมาสด้า ประกาศยกเลิกการใช้ถุงลมนิรภัยของทาคาตะที่มีการผสมสารเคมีแอมโมเนียม ไนเตรทที่ทำให้ถุงลมระเบิดรุนแรงกว่าปกติ
อย่างไรก็ตาม ทาคาตะยังมีผลกำไรในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วถึงแม้จะเผชิญกับวิกฤตการเรียกคืน ข่าวรายงานว่า ปัญหาของทาคาตะจะรุนแรงมากขึ้นและอาจทำให้ซัพพลายเออร์จากแดนปลาดิบขายแผนกผลิตถุงลมนิรภัยทิ้งไปในอนาคต
LINE
ความคิดเห็น