Honda CBR650R รถบิ๊กไบค์สายสปอร์ตขนาดกลาง พิกัด 650 cc ที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์สไตล์รถสปอร์ตตามแบบฉบับ CBR Series พร้อมตอบโจทย์ผู้ที่หลงไหลในเครื่องยนต์เสียงหวาน ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 650 cc ที่ทั้งแรงและทนทาน แถมราคาเข้าถึงง่าย
5 จุดเด่น CBR650R
เมื่อพูดถึงรถบิ๊กไบค์ ใครๆ ก็ใคร่ครวญคิดถึงแต่รถแบบเครื่องยนต์ที่มีจำนวนลูกสูบมากเข้าไว้ เพราะนั่นหมายถึงพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้น และแน่นอนว่า "เสียง" ของมัน ก็ช่างน่าหลงไหลเสียด้วย โดยฮอนด้าได้แนะนำ Honda 650 Series เข้าสู่ตลาดบ้านเราตอนนี้ก็เกือบ 10 ปีแล้วที่โลดแล่นกันมา โดยในช่วงแรกมากับโมเดล Honda CB650F และ CBR650F ก่อนจะปรับโฉมครั้งใหญ่ โดยเฉพาะเจ้า CBR650 ที่จากเดิมดูมีความเป็นสปอร์ตทัวร์ริ่งเล็กน้อย ให้กลายเป็นรถสปอร์ต DNA สนามแข่งเต็มตัว กับรหัสใหม่ Honda CBR650R
Honda CBR650R นำเอาดีไซน์ของรุ่นพี่ CBR1000RR-R มาแบบชนิดที่ว่าเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลยทีเดียว แถมพกพาเอาทั้งพละกำลังและเทคโนโลยีการขับขี่ที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เรามาดูกันว่า 5 เหตุผลที่เราควรครอบครองเจ้ารถคันนี้มีอะไรบ้าง
Honda CBR650R ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง
Honda CBR650R เป็นรถสปอร์ตขนาดกลางเพียงรุ่นเดียวในตลาดบ้านเรา ในไซส์พิกัด 650 cc ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง จุดเด่นของเครื่องยนต์ประเภทนี้คือจะมีแรงม้าที่สูงมาก สามารถทำความเร็วปลายทะลุ 220 กม./ชม. ได้อย่างง่ายดาย และแน่นอนว่ามันมาพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ที่หวานนุ่ม ไพเราะเป็นพิเศษ
ราคาเข้าถึงง่าย
รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตขนาดราว 600 - 650 cc ในบ้านเรามีอยู่หลากหลายโมเดล ทว่าราคาวางจำหน่ายก็มีความแตกต่างกันไปตามแต่จุดประสงค์ที่ค่ายผู้ผลิตออกแบบรถมาเพื่อจุดประสงค์ใด โดยเจ้า Honda CBR650R จัดว่าเป็นรถสปอร์ตขนาดกลาง เครื่องยนต์ 4 สูบเรียงที่มีราคาถูกที่สุด โดยมันมีราคาวางจำหน่ายเพียง 324,300 บาทเท่านั้น โดยคู่แข่งรุ่นอื่นๆ จะมีราคาวางจำหน่ายสูงกว่า ตั้งแต่ระดับ 400,000 - 600,000 บาทขึ้นไปเลยทีเดียว
เทคโนโลยีการขับขี่ เพียงพอกับการใช้งาน
แม้ว่า Honda CBR650R จะมีราคาวางจำหน่ายที่ไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับขนาดของเครื่องยนต์ที่ได้รับ หากเจาะลึกไปดูเทคโนโลยีความปลอดภัยของตัวรถแล้วก็พบว่าเพียงพอต่อการใช้งานแทบจะทุกรูปแบบบนถนนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นดิสก์เบรกคู่ด้านหน้า, ระบบ ABS, Traction Control, สลิปเปอร์คลัทช์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นออปชั่นที่ได้ใช้งานเป็นประจำในชีวิตประจำวันทั้งสิ้น
ส่วนระบบอื่นๆ ที่ไม่ได้ใส่มานั้น เอาตามตรงคือเราแทบจะไม่ได้ใช้งานมันด้วยซ้ำไปในชีวิตประจำวัน แต่จะนิยมใช้งานในสนามแข่งขันซะมากกว่า เพราะงั้นแล้วการที่ฮอนด้าใส่ระบบความปลอดภัยมารูปแบบนี้จัดว่าตอบโจทย์การใช้งานจริงมากกว่า และทำให้ราคารถเข้าถึงได้ง่ายด้วย
ขี่ง่าย แถมแรงด้วย
Honda CBR650R แม้จะดูว่ามีเครื่องยนต์ที่ใหญ่ถึง 650 cc ทว่ามันกลับเป็นรถที่ควบคุมได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยน้ำหนักตัวรถเพียง 208 กิโลกรัม จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติของรถ Bigbike และความสูงเบาะนั่งเพียง 810 มม. เอาว่าผู้ที่มีสัดส่วนความสูงมากกว่า 160 ซม. ขี่เจ้ารถคันนี้ได้แบบสบายๆ ขอเพียงคุณมีทักษะการควบคุมรถมอเตอร์ไซค์แบบคลัทช์มือ และมีสติสัมปัญชัญญะที่สมบูรณ์ 100% ก่อนการขับขี่ ก็สามารถขี่เจ้าคันนี้ได้เลย
โดยนิสัยของเครื่องยนต์บล็อกนี้ พละกำลังอันมหาศาลของมันจะมาตอนรอบเครื่องยนต์สูงระดับ 7,000 รอบ/นาที ขึ้นไป เอาว่าถ้าเป็นมือใหม่รถบิ๊กไบค์ ขับขี่ไม่เกิน 5,000 รอบ/นาที เพื่อทำความคุ้นชินกับรถก่อน ก็สามารถทำได้
แต่ถ้าจะให้ดี ควรเข้าคอสอบรม Honda Safety Riding ทั้ง 3 Level ให้ครบ ก่อนออกทริปจะดีมาก โดยเฉพาะ Level 1 สำคัญที่สุด มันจะช่วยทำให้คุณเพิ่มทักษะการขับขี่รถ Bigbike อย่างปลอดภัยได้ดีมากกว่าเดิมจริงๆ
ค่าบำรุงรักษาไม่แพง
แน่นอนว่ารถ Superbike นั้นมีราคาที่สูงลิบเฉียดหลักล้านบาท โดยความแรงของมันก็มาพร้อมกับค่าเชคระยะที่จัดว่า "อื้อซ่า" แพงใช้ได้เลยทีเดียว ทว่าเจ้า Honda CBR650R ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ให้ฟิลลิ่งของเสียงที่ไม่แพ้รถ Superbike แล้ว มันยังมีค่าเซอร์วิส เช็คระยะที่ถูกกว่ากันค่อนข้างมาก โดยค่าเชคระยะของ Honda CBR650R เริ่มต้นเพียงพันต้นๆ เท่านั้น ต่อทุกๆ 6,000 กม. เรียกได้ว่ามีค่าบำรุงรักษาที่เป็นมิตรต่อชาวไทยแบบเราๆ เป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว
อ่าน รีวิว Honda CBR650R
อ่าน รีวิว Honda CBR500R
อ่าน รีวิว Honda CBR1000RR-R Fireblade
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น