หลุด BYD SEAL 2023 รุ่นพวงมาลัยขวาพบในออสเตรเลีย คาดเตรียมจำหน่ายปลายปี 2023 Share this
EV Trends
โหมดการอ่าน

หลุด BYD SEAL 2023 รุ่นพวงมาลัยขวาพบในออสเตรเลีย คาดเตรียมจำหน่ายปลายปี 2023

Nunthapong Laongwan
โดย Nunthapong Laongwan
โพสต์เมื่อ 24 January 2566

 

หนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าซีดานขนาดกลางมาแรงสุดๆ อย่าง BYD Seal 2023 ที่เคยปรากฏตัวใน Bangkok Motor Expo 2022 ที่ผ่านมา ล่าสุด มีภาพปรากฏตัวของรถรุ่นดังกล่าวมาในรูปแบบพวงมาลัยขวาที่ออสเตรเลีย คาดเตรียมวางจำหน่ายช่วงครึ่งหลังปี 2023

ภาพรถยนต์สไตล์ซีดานที่ห่อหุ้มลายพรางสีน้ำเงินอมเทา หากมองใกล้ๆ จะเป็นยางรถยนต์ Continental SportContact ขนาด 235/45 R19 นี่เป็นส่วนหนึ่งของภาพ BYD Seal 2023 โดยสมาชิกรายหนึ่งของกลุ่มเฟซบุ๊ก BYD EV Owners Australia ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย บันทึกภาพเอาไว้ได้

สอดคล้องกับ Luke Todd ซีอีโอและกรรมการผู้จัดการของผู้จัดจำหน่าย BYD EVDirect เปิดเผยกับสื่อว่า  BYD Seal รุ่นพวงมาลัยขวา เตรียมเปิดตัวจำหน่ายอย่างเป็นทางการในออสเตรเลีย ในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ซึ่งรุ่นดังกล่าว อาจจะมีการเปลี่ยนชื่อรุ่นเล็กน้อย เพราะ BYD Seal เป็นชื่อเรียกในตลาดประเทศจีน เช่นเดียวกับ BYD Atto 3 ในประเทศจีน จะเรียกรุ่นนี้ว่า Yuan Plus

ราคาจำหน่าย BYD SEAL 2023 ในออสเตรเลีย เริ่มต้นเท่าไร

ทั้งนี้ BYD Seal วางตำแหน่งไว้เหนือกว่า BYD ATTO 3 SUV และ BYD Dolphin Hatchback ที่กำลังจะวางจำหน่ายในออสเตรเลียช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ส่วนราคาจำหน่าย คาดว่าจะสูงกว่า ATTO 3 ที่ตลาดออสเตรเลียในปัจจุบัน จำหน่ายเริ่มต้น 51,011 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ไม่รวมค่าธรรมเนียม (หรือประมาณ 1,673,000 บาท) สำหรับรุ่น Extened Range ซึ่งถ้าเทียบกับราคาของ Tesla Model 3 ค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก โดยราคาเริ่มต้นในรุ่น Standard ขับเคลื่อนล้อหลัง อยู่ที่ 63,900 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราวๆ 1,472,200 บาท) และรุ่น Perfomance อยู่ที่ 89,900 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราวๆ 2,070,000 บาท) 

ขุมกำลังของ BYD SEAL 2023 แรงสะใจเอาเรื่อง

ระบบขับเคลื่อนของ BYD SEAL 2023 ถ้าอิงตามตลาดประเทศจีน จะแบ่ง 2 ระบบขับเคลื่อน และ 3 ระดับพละกำลัง ได้แก่ 

  • ระบบขับเคลื่อนล้อหลังแบบมอเตอร์เดี่ยว ผลิตกำลังได้ 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม. ใช้เวลา 7.5 วินาที ใช้เซลล์แบตเตอรี่แบบ Blade Battery ขนาด 61.4 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุด 550 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน CLTC)

  • ระบบขับเคลื่อนล้อหลังแบบมอเตอร์เดี่ยว ผลิตกำลังได้ 230 กิโลวัตต์ (318 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม. ใช้เวลา 5.9 วินาที ใช้เซลล์แบตเตอรี่แบบ Blade Battery ขนาด 82.5 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุด 700 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน CLTC)

  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบมอเตอร์คู่ ผลิตกำลังรวมกันได้ 390 กิโลวัตต์ (530 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 670 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม. ใช้เวลา 3.8 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 650 กิโลเมตร  (ตามมาตรฐาน CLTC)

นอกจากนี้ ในรุ่นมอเตอร์คู่ยังมีโช้คอัพที่ช่วยปรับความถี่การสั่นสะเทือนระหว่างการขับขี่ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC รุ่นที่มีแบตเตอรี่ขนาด 61.4 kWh ชาร์จได้กำลังสูงสุด 110 kW ส่วนรุ่นที่มีแบตเตอรี่ 82.5 kWh ชาร์จได้กำลังสูงสุด 150 kW ที่สำคัญ ทุกรุ่นรองรับการชาร์จแบบ AC 7kW และระบบขจัดความร้อน (Heat Pump) ช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในรถหรือแบตเตอรี่ได้โดยไม่ใช้พลังงานมากจนเกินไป

BYD SEAL 2023 จัดเต็มทุกฟังก์ชันทั้งดีไซน์ภายนอก-ภายใน

BYD SEAL 2023 รถสปอร์ตซีดานที่มาในรูปแบบหลังคาโค้งลาดสไตล์คูเป้ยาวไปถึงขอบฝากระโปรงท้ายรถให้ดูปราดเปรียว  ด้านหน้าออกแบบทรงลิ่มแหลม ไฟหน้าใช้ทรง C-Shape ไฟหลัง LED เรืองแสงคาดยาว ล้อมด้วยกรอบสีดำ มีจุดไฟเล็กๆ โดยรอบ มือจับประตู Pop-out ตัวถังยาว 4,800 มม. กว้าง 1,875 มม. สูง 1,460 มม. ฐานล้อ 2,920 มม. 

ส่วนภายในห้องโดยสาร หากอิงตามแบบตลาดจีน ชุดแผงหน้าปัดจะเป็นทรงฟรีฟอร์มบุหนังสลับไมโครไฟเบอร์ เบาะคู่หน้าทรงสปอร์ตหุ้มหนังสังเคราะห์เจาะรูเย็บตะเข็บ Diamond Cut ซึ่งเบาะคู่หน้ามีระบบปรับอากาศและปรับระบบอุ่นได้ เบาะคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง เบาะผู้โยสารปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง นอกจากนี้ ยังติดตั้งจอดิจิทัลระบบอินโฟเทนเมนต์แสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสควบคุมมัลติฟังก์ชันขนาดใหญ่ตรงกลางแบบหมุนได้ ขนาด 15.6 นิ้ว มีคันเกียร์ไฟฟ้าเป็นพลาสติกใสขนาดเล็ก แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย 2 ช่อง ระบบเสียงใช้ลำโพง Dynaudio จากยุโรป 12 ตัว และมีหลังคากระจกแบบ Panoramic แบบตายตัว พร้อมระบบสตาร์ทรถแบบไม่ใช้กุญแจติดตั้งมาให้

BYD SEAL 2023 อัดแน่นกับระบบความปลอดภัยที่เสริมมาให้ตรงตามตลาดจีน เช่น ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับระดับได้ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (Traffic Jam Assist) ระบบตรวจสอบจุดบอด, ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถวิ่งผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบป้องกันการออกจากรถเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง ระบบปรับไฟสูง LED อัตโนมัติ และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนในอนาคต BYD ยังวางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์แบรนด์ใหม่ในออสเตรเลีย ที่จะเน้นกลุ่มลูกค้าชื่นชอบรถครอบครัวและรถหรูต่อไป   

ขณะที่ประเทศไทยนั้น BYD SEAL 2023 เคยนำเสนอตัวโชว์มาแล้วในงาน Motor Expo 2022 ที่ผ่านมา เมื่อวางตำแหน่งรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมกว่า BYD ATTO 3 และราคาเปิดตัวในจีน เริ่มต้นราวๆ 1 ล้านบาท คาดว่า ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ น่าจะสูงกว่ารุ่น ATTO 3 อย่างแน่นอน ส่วนการเปิดตัวในประเทศไทยเชื่อว่า ไม่เกินปลายปี 2023 เจอกันในฐานะรถใหม่แน่นอน

ที่มา: carexpert, Drive

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn

ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถมือสอง One2car


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ