ผ่อนรถไม่ไหว ไปต่อหรือพอแค่นี้?

หากต้องเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดในเรื่องของการเงิน แล้วคุณกำลังผ่อนรถยนต์อยู่ แต่มีความจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะยื้อไปต่อ แล้วหวังว่าอะไรจะดีขึ้น หรือเลือกที่จะหยุดพอแค่นี้ ตัดไฟเสียแต่ต้นลม ดีกว่าปล่อยให้เสียประวัติ เป็นคุณคิดว่าทางออกไหนดีที่สุด? วันนี้เราลองมาหาวิธีที่น่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับใครที่กำลังประสบปัญหานี้กัน 

ติดต่อไฟแนนซ์ปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อรักษาประวัติเครดิต

เมื่อคุณรู้ว่าผ่อนต่อไม่ไหวแน่ๆ แต่ยังอยากรักษารถคันนี้ไว้ เกิดความลังเลใจขึ้นมาไม่รู้ว่าจะตัดสินใจยังไงดี วิธีนี้อาจจะตอบโจทย์ของคุณได้มากกว่าการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ เพียงแค่ติดต่อเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ โดยที่ชื่อยังเป็นของคุณอยู่ ซึ่งปกติไฟแนนซ์ทั่วๆไป จะมีแนวทางการช่วยเหลือลูกหนี้อยู่แล้ว เพราะเค้าคงไม่อยากที่จะยึดรถของคุณเป็นแน่ วิธีการที่สามารถทำได้ เช่น 

1. ปรับลดค่างวดรถ

2. ยืดเวลาการผ่อนชำระออกไป

3. ผ่อนชำระแบบขั้นบันได

ลองพิจารณาดูว่าแบบไหนที่เหมาะสมกับความสามารถของคุณในขณะนี้ ในส่วนของการผ่อนชำระแบบขั้นบันได ส่วนใหญ่แล้วมักจะเจอกับดอกเบี้ยที่เพิ่มจำนวนขึ้นแบบบอลลูน จึงไม่ค่อยเป็นทางเลือกที่ดีนักในระยะยาว แต่ก็ควรรีบตัดสินใจก่อนที่จะเริ่มค้างชำระเป็นจำนวนมาก และเป็นการรักษาประวัติเครดิตของคุณด้วย เพราะถ้ามีประวัติติดเครดิตบูโรต้องใช้เวลาในการแก้บูโรยาวนานมาก แต่หากรีบปรับโครงสร้างให้กลายเป็น NPL จะได้รับการยกเว้นการรายงานหนี้เสียไปยังบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ 

รีไฟแนนซ์ค่างวดรถ

คุณอาจจะเคยได้ยินแต่การรีไฟแนนซ์บ้าน รถยนต์ก็สามารถรีไฟแนนซ์ได้เช่นกัน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการรีไฟแนนซ์บ้าน โดยมีทางเลือกหลักๆ ให้ 2 ทางดังนี้

1. รีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิม โดยสามารถศึกษาราบละเอียดและเงื่อนไขของอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน หรือการประเมิณราคารถยนต์ ซึ่งอาจจะได้รับดอกเบี้ยที่ถูกลงอีกด้วย

2. รีไฟแนนซ์ด้วยการย้ายธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่ ที่มีเงื่อนไขตรงตามความต้องการ ข้อดีก็คือ สามารถช่วยให้เงินผ่อนต่อ งวด / เดือน น้อยลง รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ครั้งใหม่ที่น้อยลง และมีโอกาสได้เงินส่วนต่างเพื่อนำมาใช้จ่ายได้ แต่ก็อาจจะมีผลตามมาหลายประการ เช่น อาจทำให้ระยะเวลาในการผ่อนชำรนานขึ้น หรือมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการรีไฟแนนซ์ใหม่ ซึ่งในบางกรณีอาจจะมีค่าปรับในการไถ่ถอนก่อนกำหนดนั้นเอง 

การเปลี่ยนโอนสิทธิ์ผู้เช่าซื้อ หรือขายดาวน์รถยนต์

หรือเรียกว่าการเปลี่ยนสัญญาเช่ารถ ขายทิ้งว่าง่ายๆ หากไม่ต้องการเก็บรถคันนี้ไว้แล้ว แต่ถ้าคุณยังจะเก็บรถคันนี้ไว้ ก็สามารถเปลี่ยนชื่อคนผ่อนด้วยวิธีนี้ได้เช่นกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการเปลี่ยนโอนสิทธิ์ผู้เช่าซื้อ เป็นวิธีการที่ผู้เช่าซื้อต้องการโอนสิทธิ์หรือเปลี่ยนสัญญารถให้กับผู้อื่น โดยบุคคลที่เข้ามารับโอนสิทธิ์จะเป็นผู้ผ่อนชำระค่างวดเช่าซื้อ และเป็นผู้ครอบครองรถต่อไป การเลือกวิธีนี้แน่นอนว่าย่อมได้แต่ก็ต้องยอมรับว่ารถก็จะไม่ใช่ของคุณอีกต่อไป แต่หากจะเป็นการรักษาประวัติเครดิตของคุณไว้ได้ วิธีนี้ก็ถือเป็นหนึ่งทางออกที่ดีเช่นกัน

คืนรถให้ไฟแนนซ์

หากยอดหนี้คงค้างมีจำนวนมากกว่ามูลค่ารถยนต์ วิธีที่ดีที่สุดเมื่อผ่อนรถต่อไม่ไหวคือการคืนรถให้กับไฟแนนซ์ แต่คุฯต้องยอมรับว่าคุณจะขาดทุนแน่ๆ เพราะวิธีนี้ไม่ได้เป็นการเคลียร์หนี้ให้หมดไป เพราะไฟแนนซ์ต้องนำรถไปขายทอดตลาด แล้วนำยอดเงินมาหักลบกับหนี้ที่เหลืออยู่ ซึ่งคุณก็จะต้องจ่ายหนี้ในจำนวนคงค้างชำระจนกว่าจะหมด เท่ากับเป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม ดีกว่าปล่อยให้บานปลาย แล้วมาแก้ไขทีหลังอาจจะสายเกินแก้ก็เป็นได้ 

เชื่อว่าในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ประสบปัญหาเรื่องการเงิน ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้ด้วยสติปัญญา และเชื่อว่าวิธีการข้างต้นจะช่วยให้คุณสามารถแก้ไขปัญหา และผ่อนรถต่อไปได้ในที่สุด

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com