วิธีเช็ครถก่อนเดินทางไกลง่ายๆ ด้วยตัวเอง Share this
Lifestyle
โหมดการอ่าน

วิธีเช็ครถก่อนเดินทางไกลง่ายๆ ด้วยตัวเอง

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตรวจเช็คสภาพรถยนต์ก่อนออกเดินทางไกล เพื่อความปลอดภัยต่อคุณและครอบครัว ทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง เพียงตรวขสอบ 9 จุดสำคัญ ในรถยนต์ดังต่อไปนี้ 


วิธีเช็ครถก่อนเดินทางไกลง่ายๆ ด้วยตัวเอง

สำหรับใครที่กำลังจะมีแพลนเดินทางไปท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ อย่าลืมเช็คความพร้อมก่อนออกเดินทางเพื่อความปลอดภัยของคุณและครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นเส้นทางที่คุณยังไม่เคยเดินทางไปหรือไม่คุ้นชิน อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุถ้าหากรถของคุณอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ เลดี้มีลิสต์จุดสำคัญที่ควรตรวจสอบรถยนต์ก่อนออกเดินทาง ดังต่อไปนี้ 

วิธีเช็ครถก่อนเดินทางไกลง่ายๆ ด้วยตัวเอง (1)

 

1. แผงควบคุมและหน้าปัด

ก่อนอื่นเลยให้ตรวจสอบแผงควบคุมและหน้าปัดบริเวณแดชบอร์ด ว่ามีอุปกรณ์อะไรที่ต้องดูแลเป็นพิเศษหรือไม่ อาทิ น้ำมันเครื่อง ผ้าเบรก หม้อน้ำ ลมยาง และอื่นๆ เพราะแผงควบคุมและหน้าปัดเหล่านี้จะคอยเตือนเมื่อมีความผิดปกติต่อรถยนต์ของคุณ และเพื่อจะได้ไม่เกิดอุปสรรคในการเดินทางไกลในครั้งนี้ 

วิธีเช็คแผงควบคุมและหน้าปัด

2. น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก และระบบเบรก

ระบบเบรกเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สำคัญและไม่ควรละเลย ยิ่งเวลาขับรถตอนหน้าฝน ถนนลื่นทำให้ควบคุมรถได้ยากกว่าเวลาปกติ อันดับแรกควรตรวจเช็คระดับของน้ำมันเบรก น้ำมันเครื่อง ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม หากระดับน้ำมันลดลงต่ำกว่าระดับ MIN หรือลดลงเร็วกว่าปกติ อาจเกิดการรั่วในระบบได้ ทางที่ดีอาจจะติดน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรกสำรองไว้อย่างน้อย 1 ลิตร เผื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน และควรนำรถเข้าตรวจเช็คโดยช่างผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย

3. น้ำมันเกียร์และน้ำมันคลัตช์

ตรวจสอบระบบเบรกและน้ำมันเครื่องเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเลยมาดูน้ำมันเกียร์และน้ำมันคลัตช์กันด้วย ซึ่งการตรวจสอบความสะอาดของน้ำมันเกียร์ ทำได้โดยการจอดรถและใส่เบรกมือ จากนั้นสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วเปลี่ยนเกียร์ ไล่ไปตั้งแต่ P จนถึง L โดยแต่ละเกียร์ให้ค้างไว้ซักครู่นึง แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นเกียร์ถัดไป เมื่อทำจนครบทุกเกียร์แล้ว จึงเลื่อนมาเป็นเกียร์ P หรือ N หลังจากนั้นให้ดึงก้านวัดระดับเกียร์ออกมาทำความสะอาด จากนั้นใส่ก้านวัดกลับเข้าไปแล้วดึงออกมาใหม่ ให้สังเกตดูว่าระดับน้ำมันที่ติดออกมาอยู่ตรงตำแหน่งไหน หากยังอยู่ตรง H แสดงว่าระดับน้ำมันของเกียร์อัตโนมัตินั้นปกติ หรือหากเป็นเกียร์กระปุก หรือ เกียร์ธรรมดา จะอยู่ระหว่างกลาง MIN กับ MAX แสดงว่าระดับน้ำมันถือว่าเป็นปกติ หากพบว่าระดับน้ำมันหายไปมากกว่าปกติให้รีบน้ำรถไปเข้าศูนย์โดยด่วน

วิธีเช็คน้ำมันเกียร์และน้ำมันคลัตช์

 

4. แผ่นกรองอากาศ

แผ่นกรองอากาศเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยปกป้องรถจากสิ่งไม่พึงประสงค์ภายนอก ซึ่งหากแผ่นกรองอากาศมีการอุดตัน จะทำให้เครื่องยนต์มีการทำงานหนักกว่าปกติ เป็นผลทำให้ส่วนประกอบภายในเครื่องยนต์สึกหรอได้ สามารถตรวจสอบได้โดยการเปิดตู้แอร์แล้วนำตัวกรองอากาศออกมาตรวจดู จากนั้นให้ทำการดูดสิ่งสกปรกออก หรือจะเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศใหม่ ในกรณีที่พบว่าผ่นกรองอากาศมีการอุดตัน

5. หม้อน้ำ ท่อยาง และระบบหล่อเย็น

ความร้อนเป็นอีกหนึ่งระบบที่สำคัญหากต้องเดินทางในระยะไกลๆ เพราะถ้าหากเครื่องยนต์มีการสะสมความร้อนไว้ในปริมาณมาก แต่อระบบระบายความร้อนทำงานได้ไม่ดี หรือผิดปกติ อาจทำให้เครื่องยนต์น็อคได้ ดังนั้นแล้วก่อนออกเดินทางควรเช็คระดับน้ำในหม้อพักน้ำ หม้อน้ำ รวมไปถึงการทำงานของพัดลมหม้อน้ำ มอเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ ให้เรียบร้อย หากพบว่ามีสิ่งผิดปกติ แนะนำให้นำรถเข้าไปเช็คอัพที่ศูนย์บริการก่อน เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบต่อไป 

วิธีเช็คหม้อน้ำ ท่อยาง และระบบหล่อเย็น

 

6. แบตเตอรี่รถยนต์

แบตเตอรี่ทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังส่วนต่างๆ ของรถยนต์ ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นก่อนการเดินทางควรเช็คทุกครั้งว่าขั้วแบตและฉนวนสายไฟมีการเชื่อมต่อดีหรือไม่ และควรทำความสะอาดคราบขี้เกลือสีขาวๆ บริเวณขั้วแบตเตอรีเมื่อพบเห็นทุกครั้ง หากแบตเตอรีเป็นแบบเติมน้ำ ให้ตรวจเช็คระดับน้ำและเติมน้ำกลั่นเข้าไปให้อยู่ในระดับที่กำหนอยู่เสมอ

7. ยางรถยนต์และช่วงล่าง

ตรวจสอบบริเวณดอกยางว่ามีการสึกกร่อน หรือรอยเจาะรูรั่วหรือไม่ ซึ่งปกติแล้วดอกยางควรมีความลึกไม่น้อยกว่า 1.6  มิลลิเมตร หากพบว่าดอกยางเริ่มบางแล้ว ควรเปลี่ยนเส้นใหม่ก่อนการออกเดินทาง นอกจากนี้ควรตรวจสอบชิ้นส่วนต่างๆ ของช่วงล่าง อาทิ ลูกหมาก โช้ครถ เป็นต้น เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ 

วิธีเช็คยางรถยนต์และช่วงล่าง

 

8. ที่ปัดน้ำฝน

การเพิ่มทัศนวิสัยบริเวณกระจกหน้า คือหัวใจสำคัญในการขับรถและความปลอดภัยในการเดินทาง ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์ใช้งานได้อย่างปกติ รวมถึงเช็คปริมาณของน้ำยาฉีดกระจก หากพบว่าน้ำยาพร่องไปให้เติมไว้ให้เต็มก่อนออกเดินทาง  

9. ระบบไฟส่องสว่าง 

เช็คระบบไฟทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟฉุกเฉิน ว่าทำงานได้ปกติหรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางในเวลากลางคืน รวมถึงในกรณีที่ต้องใช้สัญญาณไฟฉุกเฉิน เพื่อส่งสัญญาณบอกรถที่ขับตามมาจากด้านหลัง ให้เบรกหรือจอดช่วยเหลือได้ทัน 

ตรวจสอบรถยนต์ก่อนเดินทางไกล

 

นอกจากจะตรวจสอบรถยนต์ก่อนเดินทางไกลแล้ว อย่างน้อยๆ ควรนำรถยนต์ของคุณไปตรวจสภาพทุกๆ 6 เดือนเป็นขั้นต่ำ อย่าปล่อยให้อุปกรณ์ภายในรถชำรุดเป็นเวลานาน เพราะอาจส่งผลให้รถยนต์หรืออุปกรณ์อื่นๆ เสียหายตามมามากขึ้นกว่าเดิม 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ