เลดี้โก (Lady go) วันสบายๆ กับ GWM Tank 500 ที่ Bitterro Cafe Share this
Lifestyle
โหมดการอ่าน

เลดี้โก (Lady go) วันสบายๆ กับ GWM Tank 500 ที่ Bitterro Cafe

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 07 December 2567

ใน EP. นี้เลดี้อยู่กับ GWM Tank 500 เดินทางไปยัง Bitterro Cafe ร้านกาแฟอร่อย บรรยากาศดี ใจกลางสำโรง ที่คุณไม่ควรพลาด  


เลดี้โก (Lady go) วันสบายๆ กับ GWM Tank 500 ที่ Bitterro Cafe

วันนี้เลดี้อยู่กับ GWM Tank 500 ในวันสบายๆ อากาศดีๆ แบบนี้ ต้องพาไปชิมกาแฟดีๆ บรรยากาศโดนๆ ที่เหมือนยกเขาใหญ่มาไว้ใจกลางสำโรงกันเลยทีเดียว กับร้าน Bitterro Cafe ที่มีทั้งกาแฟ เบเกอรี่ และอาหารที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพมาให้เลือกชิมหลากหลายเมนู ถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมตัวออกเดินทางได้....

เลดี้โก (Lady go) วันสบายๆ กับ GWM Tank 500 ที่ Bitterro Cafe

 

GWM Tank 500 เอสยูวีไฮบริด "หล่อมีระดับ"

หลายคนน่าจะแอบสงสัยว่า GWM Tank 500 เป็นรถ SUV คันใหญ่เบ้อเริ่ม แล้วเลดี้ขับไหวมั้ย? ลำบากรึเปล่า? ต้องขอออกตัวก่อนว่าเป็นสาวที่ชื่นชอบรถทรงกล่อง Kei Car มากที่สุด ซึ่งพอได้เห็น Tank 500 ก็ถูกใจอยากลองขับมานานแล้ว ด้วยรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหลาประกอบกับการตกแต่งภายในที่เรียบหรู ยกระดับให้ Tank 500 กลายเป็นรถยนต์ SUV ที่พรีเมียมมากที่สุดคันนึงเลย ซึ่งเค้ามีขนาดตัวถังที่ใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์ กว้าง 1,934 มิลลิเมตร ยาว 5,078 มิลลิเมตร และสูง 1,905 มิลลิเมตร แต่ว่าขับง่ายแบบผิดคาด มีความคล่องตัวสูง จะเปลี่ยนเลนหรือเร่งแซง ก็ทำง่ายแบบไม่ต้องพยายาม อาจจะมีอึดอัดบ้างหากต้องวิ่งในเมือง แต่เค้ามีเทคโนโลยีมากมายที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ อาทิ กล้อง 360 องศา, พวงมาลัยไฟฟ้าปรับน้ำหนักได้, ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 3 รูปแบบ รวมถึงโหมดการขับขี่มากถึง 11 โหมด ให้เลือกใช้ตามสภาพเส้นทาง นอกจากนี้ยังสามารถลุยน้ำได้ที่ระดับความลึกสูงสุดถึง 800 มิลลิเมตร เรียกได้ว่าครบเครื่องตอบโจทย์การขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมืองแบบสบายๆ 

GWM Tank 500 SUV

การตกแต่งภายในห้องโดยสาร อย่างที่เลดี้บอกไปว่าเค้าใช้วัสดุพรีเมียมมากๆ เบาะโดยสารจะเป็นหนัง Nappa ให้สัมผัสที่นุ่มสบาย มาพร้อมกับระบบนวดไฟฟ้าและดันหลังไฟฟ้า สำหรับเบาะผู้ขับขี่สามารถปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง มีระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat มาให้ ส่วนเบาะผู้โดยสารตอนหน้าจะปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง ทำให้นั่งสบายตลอดการเดินทางทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร 

Tank 500 ภายใน (1)

Tank 500 ภายใน (2)

Tank 500 ภายใน (3)

GWM TANK 500 เป็นรถที่ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะ ที่มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ และระบบความปลอดภัยมากมาย อาทิ 

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ(Intelligent ACC)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
  • ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP)
  • ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)
  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
  • ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA&RCTB) 

ใครที่สนใจอยากทราบข้อมูลแบบลงลึกในเชิงขับทดสอบ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของ GWM TANK 500 ได้ที่นี่ค่ะ สำหรับเส้นทางที่เราใช้เดินทางมายังร้าน Bitterro Cafe สามารถใช้ถนนศรีนครินทร์แล้วกลับรถเข้าสู่ซอยด่านสำโรง 28 แยก 11 มีที่จอดรถให้ 2 โซน ด้านหน้าร้านกับหลังร้าน และหากใครที่สะดวเดินทางด้วยรถสาธารณะ สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว แล้วลงที่สถานีสำโรงต่อวินมอเตอร์ไซค์เข้ามาประมาณ 20 บาท ก็ได้เช่นเดียวกัน 

 

Bitterro Cafe ยกเขาใหญ่มาไว้ที่สำโรง

Bitterro Cafe ความหมายของคำว่า "Bitter" แปลว่า "ขม" เหมือนกับรสชาติของกาแฟที่มีความขม เป็นการอุปมาอุปไมยเสมือนว่าฉันขายของขมนะ!! เชิญเข้ามาชิมฉันได้เลย 

Bitterro Cafe (1)

Bitterro Cafe เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจของเจ้าของร้านที่ไม่อยากเริ่มต้นธุรกิจด้วยการเช่าสถานที่ เลยใช้พื้นที่ส่วนตัวย่านสำโรง ออกแบบดัดแปลงให้เป็นคาเฟ่บนพื้นที่หลายร้อยตารางวา ประกอบกับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญทางด้านกาแฟไม่ต่ำกว่า 25 ปี จึงได้เกิดเป็น Bitterro Cafe อย่างที่เห็นในปัจจุบัน 

Bitterro Cafe (2)

Bitterro Cafe (3)

เลดี้โก Lady go - Bitterro Cafe (1)

การออกแบบดีไซน์ภายนอกเป็นฟีลแบบสบายๆ สไตล์มินิมอล โดยเลือกใช้ต้นไม้เมืองหนาวบนดอยสูง อาทิ "สนฉัตรอินเดีย" ผสมผสานด้วย "ต้นสนซิลเวอร์โอ๊ค" วางตามแนวรั้ว รวมถึงเพิ่มพื้นที่สีเขียวแบบไม่ให้รกและทึบจนเกินไป เสริมด้วยไม้มงคลอย่าง "กันเกรา" และ "จำปี" เสริมบารมีตรงทางเข้าร้านด้วยต้นไม้ชื่อว่า "ล่ำซำ" ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่ามูระดับไหน 

เลดี้โก Lady go - Bitterro Cafe (2)

ในส่วนของภายในร้าน ตกแต่งแบบสไตล์อีซี่ล๊อฟ ไม่หนักเกินไป ไม่ดิบเกินไป ยังให้แสงส่องผ่านลงมาได้อย่างอบอุ่น การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ภายในจะคุมโทนแบบ Bitterro style เป็นงานไม้สักผสมเหล็ก ผสมผสานสีดำและน้ำตาลลายไม้ได้อย่างลงตัวไม่ลานตา ให้บรรยากาศในฟีลเหมือนนั่งอยู่บ้านตัวเองยังไงยังงั้น 

Bitterro Cafe (4)

เลดี้โก Lady go - Bitterro Cafe (3)

 

ดื่มดำกับบรรยากาศด้วยกาแฟเลิศรส 

เมล็ดกาแฟที่ทาง Bitterro Cafe เลือกใช้จะเป็นเมล็ดกาแฟของไทยทั้งหมด เพราะทางร้านอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพัฒนาและผลักดันให้กาแฟคุณภาพดีๆ ของไทยดังไกลไปทั่วโลก ด้วยความศรัทธาอย่างเปี่ยมล้นในวัตถุดิบของบ้านเรา ซึ่งจะใช้กาแฟหลักๆ 2 ชนิด ได้แก่ อาราบิก้า และโรบัสต้า เพราะต้องการดึงความขมและความนุ่มนวลที่สะสมอยู่ในตัวของเมล็ดในแต่ละชนิด นำมาผสมผสานกันโดยคัดเลือกเหมือนทั่วๆ ไป คือพิจารณาจากเมล็ดที่สะอาด เมล็ดที่สมบูรณ์ ความชื้น และแหล่งที่มา หลังจากนั้นก็นำเข้าสู่ขบวนการในการคั่วตามแบบฉบับของ Bitterro Style ประกอบไปด้วย 3 ระดับ ดังนี้ ระดับ 1 Sweet Bitter คั่วอ่อน ระดับ 2 Honey Bitter คั่วกลาง และระดับ 3 Black Bitter คั่วเข้ม

Bitterro Cafe (5)

Bitterro Cafe (6)

เครื่องชงกาแฟของทางร้านใช้ Sanremo รุ่น Cafe Recer Naked 2 G ที่ให้ความเสถียรในด้านการควบคุมระดับอุณหภูมิในหม้อต้ม แยกการทำงานอย่างชัดเจนเพื่อให้ได้รสชาติ และคาเเรคเตอร์ของกาแฟในแต่ละชนิดอย่างเห็นได้ชัด ในส่วนของเครื่องบดกาแฟใช้ของ Sanremo รุ่น sr83Evo ให้การบดที่รวดเร็ว ควบคุมเวลาได้แม่นยำ คลาดเคลื่อนน้อย ปรับระดับความละเอียดได้อย่างดี และสำหรับกาแฟแบบดริปจะใช้เครื่องบดกาแฟของ Mahlkonig รุ่น Ek43st เพื่อสามารถปรับระดับความละเอียดตามเมล็ดกาแฟแต่ละ Process ได้ 

Bitterro Cafe (7)

Bitterro Cafe (8)

ในส่วนของเมนูยอดฮิตของคนไทยหนีไม่พ้น "Es yen" ที่ให้ความเข้มข้นของกาแฟ ผสมนมแบบนัวๆ แต่ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอที่สุดก็คือ "Bitterro Dirty" ที่บอกเลยว่าใครชอบสกุล Dirty ไม่ควรพลาดจากร้านนี้ เพราะคุณจะได้ลิ้มรสชาติกาแฟที่หอม กลมกล่อม สะอาด ดื่มแล้วให้ความรู้สึกเหมือนดื่มไอศกรีมอุ่นๆ ในวินาทีแรก และเย็นสบายในภายหลัง และขาดไม่ได้สำหรับคอกาแฟร้อน "Cafe Lette" ที่ทางร้านกล้าท้าให้ลอง "ถ้าไม่อร่อยจริง ไม่คิดตังค์" 

Bitterro Cafe (9)

Bitterro Cafe (10)

สำหรับเบเกอร์รี่ของ Bitterro Cafe ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Homemade ที่มีบาร์ผลิตกันสดๆ ร้อนๆ ให้ชมได้ภายในร้านเลย เมนูขายดีของทางร้านจะเป็น "Honey Toast" ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยที่ทางร้านจะใช้แป้งโชคุปัง ย่างด้วยตู้อบไอน้ำ ทำให้เนื้อขนมปังมีความเหนียวนุ่ม ละมุนลิ้นด้วยไอศรีมให้เลือก 2 รสชาติ คือ วานิลลา และช็อคโกแลต การันตีความอร่อย

Bitterro Cafe (11)

และนอกจากเมนูกาแฟ ยังมีเมนูเครื่องดื่มประเภท Soda Series Freshy Drink ที่ได้ความสดชื่นจากผลไม้ อาทิ เสาวรส มะนาว ส้มยุซุ มะม่วง แอปเปิ้ล และสตรอเบอร์รี่ ให้เลือกชิมอีกหลากหลายเมนู ซึ่ง Bitterro Cafe นอกจากจะมอบความสุขให้กับลูกค้าทางด้านอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ยังมอบความรู้สึกที่เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ให้บริการด้วยความเป็นกันเอง อีกทั้งยังเป็น Pet Frendly สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในพื้นที่ได้ 

Bitterro Cafe (12)

อยากให้มาสัมผัสกับการบริการที่อบอุ่น และบรรยากาศอันเขียวขจีฟีลเขาใหญ่ใจกลางเมืองสำโรง ณ Bitterro Cafe พร้อมเมนูที่รังสรรค์แบบสดใหม่ทุกครั้ง รับรองว่าได้ชิมเทสโน๊ตแล้วต้องติดใจอย่างแน่นอน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร 082-185-2314

  • พิกัด : Google Map

  • ที่อยู่ : 516/87 ซอยด่านสำโรง 28 แยก 11 เมืองสมุทรปราการ

  • เปิดบริการ : 09:00 - 18.00 น.

  • โทร : 082-185-2314

  • ที่จอดรถ : มี

  • เว็บไซต์ : Bitterro Cafe

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ