เติมน้ำมันผิดทำยังไงดี? รถจะพังไหม Share this
Lifestyle
โหมดการอ่าน

เติมน้ำมันผิดทำยังไงดี? รถจะพังไหม

Sunuttinee Phumbanyen
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 11 November 2567

หากคุณเผลอไปเติมน้ำมันผิดประเภทต้องทำยังไง? อาการที่สังเกตุได้เบื้องต้นมีอะไรบ้าง และจะต้องแก้ไขยังไงก่อนที่รถจะพังมากไปกว่านี้ ไปหาคำตอบกับเลดี้กันค่ะ


เติมน้ำมันผิดทำยังไงดี? รถจะพังไหม

ว่าด้วยเรื่องของการเติมน้ำมันผิดประเภทในรถยนต์ของตนเอง แน่นอนว่าเป็นความผิดพลาดที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ๆๆ มันก็มีความเป็นไปได้ ซึ่งอาจจะเป็นกรณีที่คุณให้คนอื่นยืมรถไปขับ หรือคุณอาจจะมีรถหลายคันทำให้เกิดความสับสนได้ เพราะในปัจจุบันน้ำมันเชื้อเพลิงในบ้านเรามีหลายประเภท บางชนิดสามารถเติมด้วยกันได้ แต่บางชนิดไม่ได้ ดังนั้นแล้วหากเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น ทางที่ดีคือคุณสามารถรับมือกับมันได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยกับเครื่องยนต์

เติมน้ำมันผิดทำยังไงดี? รถจะพังไหม (1)

โดยส่วนใหญ่เครื่องยนต์สันดาปจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เบนซิน และ ดีเซล ซึ่งทั้ง 2 ประเภทใช้น้ำมันเชื้อเพลิงคนละชนิด หากเติมน้ำมันผิดอาการและความผิดปกติจะเกิดขึ้นได้ ดังต่อไปนี้ 

กรณีเครื่องยนต์ดีเซล แต่เติมน้ำมันเบนซิน

  1. มีควันดำออกมาจากท่อไอเสียจำนวนมากกว่าปกติ เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ สะดุด และดับในที่สุด
  2. สตาร์ทติดยาก หรือสตาร์ทไม่ติดเลย 
  3. หัวฉีดเกิดการเผาไหม้เร็วเกินไป ทำให้เครื่องยนต์ไม่มีกำลังและดับลงในทันที
  4. อุปกรณ์ของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงเสียหาย อาทิ ไส้กรองน้ำมันดีเซล ปั๊มหัวฉีดแรงดันสูง และหัวฉีดดีเซล

กรณีเครื่องยนต์เบนซิน แต่เติมน้ำมันดีเซล

  1. หัวฉีดอุดตัน เนื่องจากน้ำมันดีเซลมีค่าความหนืดมากกว่าเบนซิน เมื่อฉีดออกมาไม่เป็นฝอยละออง จึงทำให้หัวเทียนจุดประกายไฟ และเกิดการเผาไหม้ได้ยากทำให้เครื่องยนต์ดับ
  2. ไส้กรองเบนซินอุดตัน และเขี้ยวหัวเทียนมีคราบเขม่าจับมาก
  3. เครื่องยนต์มีเสียงดังขณะเร่งความเร็ว อัตราการเร่งเครื่องยนต์ช้ากว่าปกติ และไม่สามารถทำความเร็วได้ดีเหมือนปกติ
  4. สัญลักษณ์ไฟเตือนรูปเครื่องยนต์โชว์ขึ้น เป็นสาเหตุให้เครื่องยนต์ดับและสตาร์ทไม่ติด 

เติมน้ำมันผิดทำยังไงดี?

 

วิธีแก้ไขเมื่อเติมน้ำมันผิดประเภท 

กรณีที่รู้ตัวก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์

  1. ห้ามสตาร์ทรถยนต์เด็ดขาด เพราะน้ำมันที่เติมเข้าไปยังไม่ได้ถูกดูดเข้าระบบเชื้อเพลิงในขณะนั้น 
  2. แจ้งพนักงานปั๊มให้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ทำการดูดน้ำมันเชื้อเพลิงออกจากถังให้หมด 
  3. เติมน้ำมันที่ถูกต้องประมาณ 5-10 ลิตร 
  4. สตาร์ทเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องติดแล้วปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานที่รอบเดินเบา ประมาณ 850+/-50 รอบต่อนาที (ดูเข็มวัดรองบนหน้าปัด-แบบดิจิตอล) และห้ามเร่งรอบเครื่องยนต์โดยเด็ดขาด
  5. สังเกตสัญลักษณ์ไฟเตือนต่างๆ ว่ามีโชว์บนหน้าปัดหรือไม่
  6. เปิดสวิตช์อุปกรณ์ต่างๆ อาทิ  แอร์ ไฟแสงสว่าง หรือหมุนพวงมาลัยซ้ายสุด-ขวาสุด และให้สังเกตอาการของเครื่องยนต์ว่ามีอาการสั่นสะเทือนหรือมีแนวโน้มจะดับหรือไม่
  7. เลื่อนคันเกียร์ไปตำแหน่งเกียร์ “D” หรือหากเป็นเกียร์ธรรมดาให้เหยียบคลัตช์เข้าเกียร์ 1 พร้อมเหยียบคันเร่งให้รถเคลื่อนที่
  8. ขับรถที่ความเร็วรอบต่ำไปซักระยะ และรอจนกว่าเครื่องยนต์ทำงานปกติจึงเพิ่มความเร็วรอบของเครื่องยนต์

รถเสียสตาร์ทไม่ติด

กรณีที่สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วจนเครื่องหยุดทำงาน

  1. กรณีที่เครื่องยนต์ยังไม่ดับ ให้ปิดสวิตช์ดับเครื่องยนต์ทันที
  2. แจ้งพนักงานปั๊มให้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ทำการดูดน้ำมันเชื้อเพลิงออกจากถังให้หมด
  3. ถอดและเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงลูกใหม่
  4. ถอดหัวฉีดและหัวเทียน  (กรณีเบนซิน) ล้างทำความสะอาดหรือเปลี่ยนใหม่
  5. กรณีเครื่องยนต์ดีเซล ให้ถอดปั๊มหัวฉีดเครื่องยนต์ส่งไปร้านเทสปั๊มหัวฉีด
  6. ถอดฝาสูบเครื่องยนต์ เช็กความบิดเบี้ยว ก้านวาล์ไอดี-ก้านวาล์วไอเสียว่าคดหรือไม่ (อาจจะต้องเปลี่ยนฝาสูบและก้านวาล์วทั้งไอดีและไอเสีย)
  7. หลังจากทำตามข้อ 4-6 เรียบร้อยแล้วให้ประกอบเข้ากับเครื่องยนต์แล้วเติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกต้องใส่ในถังประมาณ 5-10 ลิตร
  8. สตาร์ทเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องติดแล้วปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานที่รอบเดินเบา ประมาณ 850+/-50 รอบต่อนาที (ดูเข็มวัดรองบนหน้าปัด-แบบดิจิตอล) และห้ามเร่งรอบเครื่องยนต์โดยเด็ดขาด
  9. สังเกตสัญลักษณ์ไฟเตือนต่างๆ ว่ามีโชว์บนหน้าปัดหรือไม่
  10. เปิดสวิตช์อุปกรณ์ต่างๆ อาทิ  แอร์ ไฟแสงสว่าง หรือหมุนพวงมาลัยซ้ายสุด-ขวาสุด และให้สังเกตอาการของเครื่องยนต์ว่ามีอาการสั่นสะเทือนหรือมีแนวโน้มจะดับหรือไม่
  11. เลื่อนคันเกียร์ไปตำแหน่งเกียร์ “D” หรือหากเป็นเกียร์ธรรมดาให้เหยียบคลัตช์เข้าเกียร์ 1 พร้อมเหยียบคันเร่งให้รถเคลื่อนที่
  12. ขับรถที่ความเร็วรอบต่ำไปซักระยะ และรอจนกว่าเครื่องยนต์ทำงานปกติจึงเพิ่มความเร็วรอบของเครื่องยนต์

วิธีแก้ไขเมื่อเติมน้ำมันผิด

ข้อแนะนำเพิ่มเติมก็คือหากคุณเติมน้ำมันผิด เมื่อรู้ตัวแล้วไม่ควรฝืนขับต่อ เพราะอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ของคุณได้ ดังนั้นการแก้ปัญหาเบื้องต้นอย่างที่เลดี้กล่าวไป จะช่วยให้คุณไม่ได้รับความเสียหายมากนัก แต่เมื่อเครื่องยนต์เดินดีเป็นปกติแล้ว ก็ควรแวะเข้าไปรีเช็คอาการอีกครั้งกับผู้เชียวชาญเพื่อความอุ่นใจค่ะ

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ